สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 27 ก.พ.-3 มี.ค.256

“เงินบาทอ่อนค่า ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงปลายสัปดาห์ จากความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด”
Foreign Exchange Market
- เงินบาทกลับมาอ่อนค่ากว่า 35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่ฟื้นตัวขึ้นตามโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด (ที่สะท้อนจากตลาดอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า) ในการประชุมเดือนมี.ค. นี้ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดหลายคนทยอยออกมาส่งสัญญาณเตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี แรงขายเงินดอลลาร์ฯ จากกลุ่มผู้ส่งออก ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทไว้ได้บางส่วน
- สำหรับในวันศุกร์ (3 มี.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 35.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับ 34.91 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (24 ก.พ.)
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (6-10 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.95-35.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน เครื่องชี้ตลาดแรงงานอื่นๆ ในดือนก.พ. รวมถึงยอดสั่งซื้อของโรงงานในเดือนม.ค. นอกจากนี้ จุดสนใจของตลาดอาจรวมไปถึงผลการประชุมนโยบายการเงินของ ECB และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.พ. ของจีน
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (6-10 มี.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.95-35.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน เครื่องชี้ตลาดแรงงานอื่นๆ ในดือนก.พ. รวมถึงยอดสั่งซื้อของโรงงานในเดือนม.ค. นอกจากนี้ จุดสนใจของตลาดอาจรวมไปถึงผลการประชุมนโยบายการเงินของ ECB และตัวเลขเศรษฐกิจเดือนก.พ. ของจีน
Stock Market
- ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงปลายสัปดาห์ จากความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,566.20 จุด เพิ่มขึ้น 0.10% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ลดลง 10.22% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 39,030.22 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 615.81 จุด ลดลง 0.90% จากสัปดาห์ก่อน
- ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในช่วงต้นสัปดาห์ จากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นในวันพุธ หลังถ้อยแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ลดความดุดันในด้านนโยบายการค้าลง ประกอบกับมีแรงซื้อทางเทคนิค หลังดัชนีปรับลดลงไปในช่วงก่อนหน้า จากนั้น ดัชนีปรับลดลงต่อในช่วงปลายสัปดาห์ จากความกังวลต่อโอกาสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. นี้
สำหรับสัปดาห์ถัดไป (6-10 มี.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,550 และ 1,530 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,580 และ 1,595 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้ง การประชุมของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองของจีน (CPPCC) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ข้อมูลการค้า และการจ้างงานนอกภาคการเกษตร ส่วนปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ จีดีพี ไตรมาส 4/59 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน ตลอดจนการประชุมนโยบายการเงินของ ECB
ข้อมูลจาก bangkokbiznews.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น