ทั่วโลกฆ่าตัวทุกๆ 40 วินาที !!
ประมาณ 75% ของการฆ่าตัวตายโดยรวม เกิดขึ้นในประเทศรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลาง เด็กวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวอายุ 20 ปีต้นๆ เสี่ยงค่อนข้างสูง
องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ระบุว่า การฆ่าตัวตายเกิดขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก ทั้งในประเทศร่ำรวยและประเทศยากจน โดยประมาณ 75% ของการฆ่าตัวตายโดยรวม เกิดขึ้นในประเทศรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลาง และคนที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงคือ เด็กวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวอายุ 20 ปีต้นๆ แต่ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ชี้ว่า สามารถป้องกันการฆ่าตัวตายได้
ดับเบิลยูเอชโอ ระบุว่า ทุกปีมีคนเสียชีวิตราว 800,000 คนทั่วโลกจากการฆ่าตัวตาย ซึ่งตัวเลขนี้แสดงว่า มีคนปลิดชีวิตตัวเองทุกๆ 40 วินาที และการฆ่าตัวตายมีผลกระทบต่อครอบครัว สังคม และชุมชนตามมา
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สามารถป้องกันการฆ่าตัวตายได้หากรัฐบาลในประเทศต่างๆ มีนโยบายออกมาป้องกันการเสพสุราและยาเสพติด ทำให้อาวุธปืนปลอดภัยมากขึ้น ให้บริการด้านคำปรึกษาและช่วยเหลือคนที่เป็นโรคซึมเศร้าและโรคต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของโรคซึมเศร้า
นายพอล จอนฟรีโด ประธานหน่วยงานสุขภาพจิตอเมริกา ( Mental Health America) ที่รณรงค์ต่อต้านการฆ่าตัวตาย เปรียบเทียบคนที่เป็นโรคจิตเภทว่า เหมือนกับคนที่เป็นมะเร็งในระยะต่างๆ และเมื่อคนมาถึงจุดที่ต้องการฆ่าตัวตาย ก็เทียบได้กับการเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
ขณะที่ โดโรธี พอว์ แชร์ประสบการณ์ชีวิตที่น่าสนใจให้ฟังว่า ตนเองอายุเพียงเก้าปีตอนที่บิดาฆ่าตัวตาย เธอมาเยี่ยมที่หลุมฝังศพของพ่อที่สุสานอาร์ลิงตั้น ซึ่งเป็นสุสานเฉพาะสำหรับทหารวีรบุรุษ โดยพ่อของเธอยิงตัวเองเสียชีวิตตอนที่เธออยู่ที่สระว่ายน้ำ
อีก 50 ปีต่อมา เธอต้องพบกับความสูญเสียแบบเดียวกันนี้อีกครั้งเมื่อ ปีเตอร์ ลูกชายของเธอปลิดชีพตัวเองในปี 2555 หลังจากเขาซื้อปืนมาหนึ่งกระบอกเพื่อใช้ในการฝึกยิงกับน้องชาย และใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวเพราะเขาคิดว่าแถวบ้านที่เขาอยู่ไม่ปลอดภัย
ประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวดนี้ เป็นแรงบันดาลใจให้เธอออกมารณรงค์การป้องกันการฆ่าตัวตาย
นางพอว์ ยังบอกด้วยว่า หากเห็นใครที่กำลังมีปัญหา ให้ถามตรงๆ ว่า กำลังคิดจะฆ่าตัวตายอยู่หรือเปล่า แม้ว่าจะไม่ใช่บทสนทนาที่น่าพึงประสงค์ แต่ก็ดีกว่าการจบลงด้วยการไปร่วมงานศพของคนๆ นั้น
ข้อมูลจาก komchadluek.net
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น